การแข่งขันดาร์บี้แห่งตูรินเผยให้เห็นปัญหาสามประการสำหรับยูเวนตุส โดยกองหน้าของพวกเขาไม่สามารถทำประตูจากการเล่นแบบเปิดได้เป็นเวลา 49 วัน การโจมตี แมตช์ สปัลเล็ตติ
ในการแข่งขันดาร์บี้เมืองตูรินล่าสุด ยูเวนตุสเสมอกับคู่แข่งร่วมเมือง โตริโน่ 0-0 โดยไม่สามารถเจาะแนวรับของคู่แข่งได้ การแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นความผิดหวังอีกครั้งสำหรับทีมเจ้าบ้านที่ครองบอลได้เหนือกว่าแต่กลับไม่สามารถสร้างโอกาสทำประตูได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ทั้งสองทีมไม่สามารถทำลายสกอร์ได้สำเร็จ ช่วงเวลาที่โดดเด่นที่สุดของเกมคือการโชว์ฟอร์มอันยอดเยี่ยมของทั้งสองผู้รักษาประตู ซึ่งทำให้กองหน้าของทั้งสองทีมไม่สามารถหาทางผ่านเข้าไปทำประตูได้

ผู้จัดการทีมยูเวนตุส สปัลเล็ตติ ได้พาทีมไปสู่การไม่แพ้ติดต่อกันสามนัดติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม การเสมอกับโตริโน่ได้เปิดเผยปัญหาสำคัญสามประการภายในทีม ประการแรก แม้จะครองบอลได้เหนือกว่า แต่จังหวะการโจมตีของยูเวนตุสยังคงช้าอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าพวกเขาจะควบคุมจังหวะของเกมได้ (ครองบอล 71%) แต่ความเร็วและความเฉียบคมในการส่งบอลยังคงไม่เพียงพอสปัลเล็ตติเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการส่งบอลทะลุช่องที่เฉียบคมมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกสกัดกลางสนามและเจาะแนวรับของคู่แข่ง ปัญหานี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและอาจเกิดจากข้อจำกัดทางเทคนิคของขุมกำลังปัจจุบันของยูเวนตุส ซึ่งเป็นปัญหาที่พบเห็นซ้ำในฤดูกาลที่ผ่านมา ทางออกเดียวที่ดูเหมือนจะเป็นไปได้คือการแก้ไขข้อบกพร่องนี้ด้วยการเสริมผู้เล่นใหม่ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในตลาดซื้อขายนักเตะ

ประการที่สอง การจัดทีมของยูเวนตุสอาจต้องมีการปรับเปลี่ยน แม้ว่าสปัลเล็ตติจะยังคงใช้ระบบกองหลังสามคนในสามนัดแรกที่เขาคุมทีม แต่ช่วงพักเบรกทีมชาติที่กำลังจะมาถึงนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีในการทดลองรูปแบบการเล่นใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนักเตะทีมชาติของสโมสรจะต้องไปรับใช้ทีมชาติในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้า สปัลเล็ตติเองก็ได้ยืนยันถึงความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลงแท็คติก โดยระบบกองหลังสี่คนกำลังเป็นตัวเลือกที่ได้รับความสนใจมากที่สุดผู้จัดการดูเหมือนจะชื่นชอบการจัดทีมที่มีเซ็นเตอร์แบ็กสองคนและฟูลแบ็ก ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้อาจช่วยให้ทีมมีความสมดุลระหว่างเกมรับและเกมรุกได้ดีขึ้น

ประการที่สาม ความคิดสร้างสรรค์ของยูเวนตุสในพื้นที่สุดท้ายขาดหายไปอย่างเห็นได้ชัดสปัลเล็ตติกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่าทีมขาดนวัตกรรมในการจัดระบบเกมรุก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการมีส่วนร่วมของกองหน้า แม้ว่าจะได้เซ็นสัญญานักเตะเกมรุกใหม่หลายคนในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะฤดูร้อนที่ผ่านมา แต่พวกเขายังไม่สามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ กองหน้าของยูเวนตุสยังดูไร้ประสิทธิภาพในเกมรุก สร้างโอกาสทำประตูที่แท้จริงได้น้อยมาก โค้ชจำเป็นต้องให้คำแนะนำที่ชัดเจนมากขึ้นกับผู้เล่นเกมรุก เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถสร้างภัยคุกคามในพื้นที่สุดท้ายได้มากขึ้น และปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงของพวกเขาออกมาให้ได้

การเล่นเชิงรุกของยูเวนตุสยังคงมีปัญหาสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแมตช์ล่าสุดที่ทีมมีประสิทธิภาพในการทำประตูได้อย่างน่าผิดหวัง หลังจากเกมดาร์บี้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กองหน้าของเบียงโคเนรีได้ประสบกับภาวะไร้สกอร์ในเซเรียอาเป็นเวลา 49 วันแล้วแม้แต่ผู้เล่นอย่าง ดูซาน วลาโฮวิช และ เมรีห์ เดมิรัล ที่เคยทำประตูได้จากจุดโทษ ก็ยังประสบปัญหาในการสร้างผลงานในเกมรุกแบบเปิด ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา ผู้เล่นแนวรุกของยูเวนตุสยังไม่สามารถทำประตูจากจังหวะเกมปกติได้เลย หากไม่นับประตูจากจุดโทษ แม้สโมสรจะเสริมทัพด้วยผู้เล่นใหม่ รวมถึงวลาโฮวิช แต่ดูเหมือนประสิทธิภาพในเกมรุกของพวกเขายังคงไม่ดีขึ้น

ยูเวนตุสไม่สามารถทำประตูได้ในสี่นัดจากหกนัดล่าสุดในเซเรีย อา โดยเก็บได้เพียงแปดคะแนนจากนัดเหล่านี้ – ผลงานที่ต่ำกว่าความคาดหมายอย่างมาก การโจมตีของทีมนั้นแห้งแล้งเป็นพิเศษนับตั้งแต่ประตูของโจอาคานเซโล่ที่ยิงใส่เฮลลาส เวโรนาเมื่อวันที่ 20 กันยายนนักเตะใหม่ โลอิส โอเปนดา และ เอดอน เจโรเม ยังไม่สามารถทำประตูในเซเรีย อา ได้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าปัญหาการโจมตีของยูเวนตุสยังไม่ได้รับการแก้ไข

เห็นได้ชัดว่า สปัลเล็ตติ กำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปรับปรุงแนวทางการโจมตี แม้ว่าเขาจะมีความยืดหยุ่นทางยุทธวิธี แต่การยกระดับความสามารถในการโจมตีของทีมภายในระยะเวลาอันสั้นไม่ใช่เรื่องง่ายหากยูเวนตุสต้องการที่จะก้าวหน้าในนัดต่อไป โดยเฉพาะในด้านการโจมตี สปัลเล็ตติจำเป็นต้องคิดหาทางแก้ไข – อาจจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ในตลาดนักเตะ ในเวลาเดียวกัน กองหน้าของบิアンโคเนรีต้องเพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าเพื่อฟื้นฟูฟอร์มอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยให้ทีมหลุดพ้นจากสถานการณ์ปัจจุบัน








